SOโตสวนกระแสปรับองค์กรด้วยDigitization

​สยามราชธานี หรือ SO เผยมีผลงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง และทำกำไรได้ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ปรับการดำเนินธุรกิจแบบ Digitization เน้นการนำระบบและแพลตฟอร์มต่างๆ มาใช้ลดขั้นตอนการทำงาน พร้อมผนึกกำลังเป็นพันธมิตรด้วยกลยุทธ์การ Outsource

นายณัฐพล วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO เปิดเผยว่า การปรับตัว คือสิ่งสำคัญที่ทุกองค์กรต้องทำ เพื่ออยู่รอดท่ามกลางการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยสยามราชธานีผ่านการลีนมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้คล่องตัว เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และพร้อมที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารจัดการองค์กร ทั้งสายงานหลักและสายงานรอง โดยมุ่งเน้นประสิทธิภาพในการจัดหาบุคลากรภายนอก ที่มีคุณภาพและความเหมาะสมกับงาน อาทิ พนักงานสำนักงาน พนักงานขับรถยนต์ส่วนบุคคล และพนักงานฝ่ายเทคโนโลยี เพื่อสนับสนุนการทำงานขององค์กรทั้งจากภาครัฐและเอกชน ที่พร้อมรองรับการบริการทางธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปัจจุบัน

ปัจจัยหลักในการเติบโตของสยามราชธานีมาจากการปรับปรุงกระบวนการลดต้นทุนในการบริหารงานอย่างสม่ำเสมอ โดยเปลี่ยนวิธีการบริหารและการจัดการงานต่างๆ เพื่อให้ได้ราคาต้นทุนที่คุ้มค่าที่สุด เช่น หากเป็นสัญญาระยะสั้น การเช่าทรัพย์สินจะมีความเหมาะสมกว่าการซื้อทรัพย์สิน ด้วยเหตุผลในเรื่องการลดค่าใช้จ่ายและป้องกันความเสี่ยง หากเป็นสัญญาระยะยาว การซื้อทรัพย์สินจะมีต้นทุนที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับการเช่าทรัพย์สิน เป็นต้น

ทั้งนี้ กระบวนการลีนที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องสามารถลดต้นทุนในส่วนของการบริหารจัดการได้ เช่น การลีนค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร กรณีพนักงานลาออก สามารถใช้บุคลากรที่มีอยู่ได้โดยไม่ต้องรับพนักงานใหม่ ทั้งยังรักษามาตรฐานการบริหารจัดการและการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากปัจจัยหลัก คือ 1. การให้ความสำคัญกับแนวคิด Digitization อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากกระบวนการในการเปลี่ยนสิ่งที่เป็นอนาล็อกให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล และดำเนินการจัดทำอินเด็กซ์เพื่อให้ง่ายต่อการเรียกดูหรือใช้ข้อมูล ช่วยลดระยะเวลา ลดความผิดพลาดในการทำงาน ทั้งนี้นอกจากแปลงข้อมูลเอกสารให้อยู่ในรูปแบบของ Text จัดเก็บลงในฐานข้อมูลอย่างเป็นระบบแล้ว ยังสามารถขยายผลโดยนำแฟลตฟอร์มต่างๆ ที่ทางสยามราชธานีได้พัฒนาขึ้น มาช่วยวิเคราะห์และประมวลผล เพื่อให้ฝ่ายต่างๆ สามารถนำข้อมูลไปใช้ต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. การใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มมาช่วยลดขั้นตอน ลดความผิดพลาดในการทำงาน เช่น การนำเอาระบบการจัดการคัดเลือกพนักงาน (iRecruit) เข้ามาช่วยในการสรรหา ทดสอบ และคัดเลือกพนักงาน ทำให้กระบวนการการทำงานสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น การใช้ระบบลงเวลา (Tiktrack) เก็บข้อมูลการลงเวลา การลางาน การทำงานล่วงเวลา หรือเบี้ยเลี้ยงต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟน สามารถนำข้อมูลมาประมวลผลเพื่อจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทนต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ทั้งลูกค้ายังเห็นข้อมูลได้ทันท่วงที (Real-time) และสามารถอนุมัติขั้นตอนต่างๆ ได้ในรูปแบบออนไลน์ ไม่ต้องเสียเวลาในการตรวจสอบข้อมูล ลดขั้นตอนการทำงานของลูกค้าได้อีกด้วย

รวมไปถึงการนำเอาระบบจัดการเอกสาร ที่สามารถสร้างความต่อเนื่องในการอนุมัติงานและการเซ็นเอกสารแบบดิจิทัล (Digidocs & Flow) เพื่อความรวดเร็วและคล่องตัวในการทำงาน สามารถติดตามกระบวนการต่างๆ ได้ ทำให้การทำงานมีความต่อเนื่องอยู่เสมอ


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment