SMARTตั้งเป้าปี64โต5%โชว์ปี 63 กำไร 45.80 ล้านเตรียมปันผล 0.12 บาท/หุ้น

SMARTวางแผนปี64ปั๊มรายได้โตไม่ต่ำกว่า5% ส่วนปี63 กวาดรายได้รวม 419.17 ล้านบาท กำไร 45.80 ล้านบาท โต 3.56%เตรียมจ่ายปันผล 0.12 บาท/หุ้น

นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) (SMART) เปิดเผยว่า ในปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้ 440 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% หากโควิด-19 จบอย่างรวดเร็วในครึ่งปีแรก โดยคาดว่าครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มที่ดีกว่าครึ่งปีแรก จากโครงการเมกะโปรเจคขนาดใหญ่ งานโครงการก่อสร้างอาคารภาครัฐ นโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ EEC ผลักดันให้เกิดการลงทุนก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม คลังสินค้า และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทยอยลงทุนในโครงการใหม่ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาปรับตัวดีขึ้น

สำหรับกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจ บริษัทมีแผนเดินหน้าทำการตลาดเชิงรุก ออกสินค้าใหม่อิฐมวลเบาตกแต่งเพิ่ม 2 ลายในปีนี้ จากเดิม 5 ลาย เนื่องจากมีกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า และยอดขายเติบโตต่อเนื่อง พร้อมผลักดันสินค้าผ่านช่องทางการจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด ดีลเลอร์ ให้มากขึ้น และขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าใหม่ อาทิ ผู้รับเหมาต่างประเทศที่เข้ามาพัฒนาโครงการอสังหาฯ และก่อสร้างโรงงาน นิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออก

ขณะเดียวกันบริษัทยังมุ่งเน้นการทำตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ “อิฐมวลเบาตกแต่งและประหยัดพลังงาน" ให้เป็นที่รู้จัก มากขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ควบคู่กับการใช้กลยุทธ์ O2O (Online to Offline ) เพื่อกระตุ้นการสร้างยอดขายให้เติบโต และสร้างการรับรู้กับลูกค้าในวงกว้าง ผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียต่อเนื่อง ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ งานภาครัฐอยู่ที่ 60 % ภาคเอกชน 38 % และต่างประเทศ 2% ขณะที่สัดส่วนรายได้แบ่งตามกลุ่มผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบา 94 % อิฐมวลเบาตกแต่ง 5 % และอื่นๆ 1 %

สำหรับการขยายตลาดกลุ่มประเทศ CLMV บริษัทฯยังมีการส่งสินค้าไปจำหน่ายในประเทศกลุ่มนี้ เพื่อใช้ในงานก่อสร้างและงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยมีกระแสตอบรับที่ค่อนข้างดีและมีออเดอร์สั่งซื้อสินค้าต่อเนื่องจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศดังกล่าว นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าเจรจาหาพันธมิตรเป็นตัวแทนจำหน่าย เพื่อขยายตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV อย่างต่อเนื่อง

นายรังสี กล่าวว่า สำหรับผลประกอบการงวดปี 2563 มีรายได้รวม 419.17 ล้านบาท ลดลง 47.65 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 466.82 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 45.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 44.23 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.57 ล้านบาท คิดเป็น 3.56 %

ขณะที่ ผลประกอบการไตรมาส 4/63 มีรายได้รวม 108.73 ล้านบาท ลดลง 15.35 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 124.08 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 15.80 ล้านบาท ลดลง 5.19 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 20.99 ล้านบาท

ทั้งนี้ผลประกอบการ ในส่วนของกำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากบริษัทมีการบริหารจัดการควบคุมต้นทุนการผลิตและการขายอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่รายได้รวมปรับลดลงเล็กน้อยเนื่องจาก ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลประจำปี 2563 แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท คิดเป็น 132.99% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย จากนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ บริษัทได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2563 หุ้นละ 0.05 บาท โดยครั้งนี้จะจ่ายเพิ่มเติม 0.07 บาท/หุ้น คิดเป็นเงินปันผลที่จะจ่ายเพิ่มเติมให้แก่ผู้ถือหุ้น 0.035 บาท/หุ้น ภายหลังจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จาก 1 บาท/หุ้น เป็น 0.50 บาท/หุ้น คิดเป็นจำนวนเงินปันผลเพิ่มเติม 32 ล้านบาท ทั้งนี้ รอมติการอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผู้ถือหุ้นในช่วงเดือนเมษายนอีกครั้ง


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment