SENAได้โซลาร์ดัน ลุ้นอสังหาฯกระเตื้อง

เสนาฯ เตรียมเปิดโครงการใหม่เพิ่ม 9 โครงการ รวมมูลค่า 12,000 ล้านบาท ลุ้นครึ่งหลังอสังหาริมทรัพย์กระเตื้อง รับภาพรวมอสังหาฯ ติดลบ แต่รายได้ธุรกิจโซลาร์โตกระฉูด

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/ 2562 อยู่ที่ 1,129 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 34.9% มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 119.4 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตามในส่วนของธุรกิจโซลาร์ของบริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดดหลายเท่าตัว โดยมีรายได้อยู่ที่ 58.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.6 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 1,793.5 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการเจรจาตกลงซื้อขายอุปกรณ์ พร้อมติดตั้ง สำหรับระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป)กับ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) และเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2562 ของบริษัทมีรายได้ 2,342.35 ล้านบาท ปรับตัวลดลง17% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 279.1 ล้านบาท ลดลง 28.4 % เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนครึ่งปีหลัง บริษัทปรับแผนการเปิดโครงการใหม่ โดยเลื่อนการเปิดโครงการใหม่จากไตรมาส 2 ไปเปิดในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ในปี 2562 เพื่อให้สอดรับกับ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และผลกระทบจากมาตรการ LTV รวมถึงสถานการณ์ที่ผู้รับเหมาก่อสร้างยังมีไม่เพียงพอ เนื่องจากมีการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนมาตรการ โดยเตรียมเปิดโครงการใหม่ 9 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนบราบ 4 โครงการ และแนวสูง 5 โครงการ รวมมูลค่า 12,000 ล้านบาท

สำหรับในปีนี้บริษัทยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอน (Backlog) คิดเป็นมูลค่า 12,583 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 ซึ่งจะเป็นการทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปี 2562 ประมาณ 4,582 ล้านบาท และทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2564 ตามลำดับ

โดยภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส3และไตรมาส4ของปีนี้ ประเมินว่ามีทิศทางปรับตัวดีขึ้น จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก ผลจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งมาตรการด้านการท่องเที่ยว การประกันราคาสินค้าเกษตร และการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ที่ส่งผลให้เกิดกำลังซื้อภายในประเทศอีกครั้ง ตลอดจนการเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ และเกิดการจ้างงานในระบบมากขึ้น

นอกจากนี้ทางธปท.ยังได้ผ่อนปรนมาตรการLTVเพื่อเป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบของผู้กู้ร่วมที่ไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยให้ได้รับสินเชื่อตามความเหมาะสมมากขึ้น ส่วนนี้จะเข้ามาช่วยผลกระทบจากมาตรการLTV ได้ระดับหนึ่ง


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment