กสิกรไทยไม่ทิ้งกัน เดินหน้าช่วยลูกค้าต่อหลังหมดมาตรการพักหนี้

ธนาคารได้มีการเตรียมความช่วยเหลือสำหรับลูกค้าที่เข้ามาตรการพักชำระหนี้ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 22 ต.ค.นี้ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีการติดต่อสอบถามลูกค้าแต่ละรายอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาสภาพคล่องหรือกระแสเงินสดของลูกค้า ทั้งนี้จากการเข้าพบลูกค้าผู้ประกอบการที่เข้ามาตรการฯ ประมาณ 100,000 ราย พบว่าประมาณ 81% สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ปกติ ซึ่งเป็นธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภคมีเพียง 18% ที่ต้องการมาตรการช่วยเหลือต่อ โดยส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และส่วนที่เหลือมีการปิดกิจการไปแล้ว

สำหรับลูกค้าที่ยังไม่สามารถกลับมาชำระปกติได้ ธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือต่อเนื่อง โดยเน้นแก้หนี้ให้ตรงจุดแทนการช่วยเหลือเป็นการทั่วไป มาตรการช่วยเหลือของธนาคารจึงมีหลายรูปแบบ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะอุตสาหกรรมและลักษณะธุรกิจของลูกค้าแต่ละราย โดยมีรูปแบบการช่วยเหลือ ดังนี้ 1) การบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย เช่น การปรับลดภาระผ่อนชำระต่อเดือน การพักชำระเงินต้น การพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย และ 2) การให้เงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง เช่น การปล่อยสินเชื่อใหม่เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับกลุ่มลูกค้าธุรกิจผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Soft Loan พลัส วงเงินสูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาทรวมทุกสถาบันการเงิน ค้ำประกันสินเชื่อโดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี และพักชำระเงินต้นสูงสุด 2 ปี

อย่างไรก็ตามแม้ธนาคารจะมีมาตรการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นการลดภาระหนี้ในปัจจุบัน แต่ภาระดอกเบี้ยในแต่ละเดือนตลอดช่วงการพักหนี้ ยังคงเป็นภาระแก่ลูกหนี้ในระยะยาว ดังนั้นลูกหนี้ที่ยังมีรายได้เพียงพอที่จะชำระคืนหนี้ควรชำระหนี้ตามปกติหลังหมดมาตรการ นอกจากนี้ การปรับตัวในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการทั้งในด้านการหาตลาดใหม่ ๆ และการบริหารต้นทุน ยังคงเป็นเรื่องสำคัญมาก

อนึ่งผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคลได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก ซึ่งธนาคารกสิกรไทยได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดตั้งแต่ช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ทั้งการช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย เช่น ลดยอดการผ่อนต่อเดือน พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย และสนับสนุนเงินทุนด้วยสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง โดยให้ความช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคลผ่านมาตรการระยะที่ 1 และ 2 ไปแล้ว 860,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้ลูกค้าธุรกิจที่เข้าร่วมมาตรการ 360,000 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 22 ต.ค.2563


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment